วันจันทร์ที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2558

[APU] ว่าด้วยเรื่องทุน APU - การเตรียมตัว การสัมภาษณ์

เอาล่ะ เนื่องจากตอนนี้ชีวิตคือว่างมาก อยู่บ้านไม่มีไรทำ รอไปเรียนเดือนกันยานู่น เลยมาทำประโยชน์อะไรกับชาวโลกเสียหน่อย

จากเอนทรี่ก่อนดูเหมือนว่าจะมีคนสงสัยเรื่องทุน APU อยู่ เราจึงจะมาอธิบายทุกอย่างไว้ในเอนทรี่นี้เลยก็แล้วกันนะจ๊ะ





APU ย่อมาจาก Ritsumeikan Asia Pacific University เป็นมหาวิทยาลัยอินเตอร์แห่งหนึ่งในญี่ปุ่นที่กำลังมาแรงเลยทีเดียว ด้วยจุดเด่นที่มหาลัยนี่มีนึกศึกษาต่างชาติกับญี่ปุ่นเป็นสัดส่วนครึ่งต่อครึ่งทำให้มหาลัยแห่งนี้กลายเป็นแหล่งรวมวัฒนธรรมนานาชาติไปโดยปริยาย โดยมหาลัยแห่งนี้ตั้งอยู่ที่เมืองเบ็บปุ จังหวัดโออิตะซึ่งเป็นเมืองที่โดดเด่นด้านออนเซ็นแถมค่าครองชีพไม่ค่อยสูงมาก มหาลัยนี้จึงเป็นอีกหนึ่งมหาลัยที่นักศึกษาต่างชาติให้ความสนใจมากทีเดียว

อันที่จริงแล้ว จุดเด่นของมหาลัยนี้อีกอย่างที่ดึงดูดนักเรียนม.ปลายวัยใสหัวใจเอนทรานซ์ให้เข้ามาสมัครกันก็คือ 'ทุน'

ใช่ค่ะ...ทุน =.,=

ทางมหาลัยจะมีทุนลด 'ค่าเล่าเรียน' ตลอดระยะเวลา 4 ปี เรียกได้ว่าให้จนจบการศึกษาเลยนั่นเอง โดยจะมีทุนให้ตั้งแต่ 30% 50% 65% 80% ไปจนถึง 100% เลยค่ะ ซึ่งทุนนี้จะพิจารณาจาก

1. ผลการเรียนในระดับชั้นม.ปลาย (ไม่ต่ำกว่า 3.00)
2. คะแนนความสามารถทางภาษาอังกฤษ พวกไอเฟล ไอเอล โทอิค
3. ผลการสอบสัมภาษณ์
4. เรียงความภาษาอังกฤษ
5. Portfolio

อันตัวข้านั้นได้ทุน 80 % มา ผิดหวังนิดหน่อย (อยากได้ 100% อ่ะ TwT) แต่ก็โอเค ดีกว่าไม่ได้ล่ะวะ ฮ่าๆ

อนึ่ง ทุนนี้เป็นแค่ทุนค่าเล่าเรียนเฉยๆ นะ ส่วนค่าใช้จ่ายอื่นเช่น ค่าหอ ค่ากินค่าอยู่นี่ต้องทุน พกมก. (พ่อกูแม่กู) โอนลี่ค่ะ แต่ไม่ต้องเป็นห่วงไป เมื่อไปถึงโน่นเราสามารถขอยื่นทุนได้อีกค่ะ มีสปอนเซอร์คอยสนับสนุนอยู่ พวกทุนค่ากินค่าอยู่ไรงี้ แล้วแต่เงื่อนไข อันนี้เรายังไม่ได้ไป ยังไม่ขอ อธิบายได้ไม่มาก


เอาล่ะ มาว่าด้วยเรื่องมหาลัยกันต่อ มหาลัยตอนนี้มีเปิดอยู่ด้วยกัน 2 คณะคือ

1. College of International Management (APM)
2. College of Asia Pacific Studies (APS)

รายละเอียดย่อยของคณะก็ไปหาอ่านที่เว็บของมหาลัยกันเองนะ ฮ่าๆๆๆๆ


ตอนนี้เราจะมาพูดถึงขั้นตอนการสมัคร  อย่างแรกเราต้องเตรียมเอกสารประกอบการสมัครก่อน ซึ่งมีดังนี้

1. แบบฟอร์มการสมัคร หาโหลดได้ที่ http://admissions.apu.ac.jp/apply/download_form.html ไม่ก็สมัครออนไลน์ก็ได้นะ โดยต้องสมัครเป็นสมาชิกในเว็บของมหาลัยก่อน แล้วกรอกข้อมูลไปเรื่อยๆ ตามที่เค้าให้กรอก อันนี้บอกไว้ก่อนสำหรับคนที่จะชำระเงินค่าสมัครผ่านบัตรเครดิตนะคะ ต้องสมัครทางเว็บเท่านั้น แต่ถ้าโอนเงินผ่านทางธนาคารทั่วไปก็ทำวิธีไหนก็ได้ค่ะ

2. ผลการเรียนภาษาอังกฤษฉบับจริง ถ้ายังไม่จบม.6 ก็ยื่น 5 เทอม แต่ถ้าจบแล้วก็ยื่น 6 เทอมค่ะ

3. ผลการสอบภาษาอังกฤษ มี 3 อย่างให้เลือกคือ 1. TOEIC (700 ขึ้นไป) 2. TOEFL (61 ขึ้นไป) 3. IELTS (5.5 ขึ้นไป) หรือถ้าไม่มีก็เอาแบบฟอร์ม English Proficiency Evaluation ไปให้อาจารย์สอนอังกฤษที่โรงเรียนกรอกประเมินให้เราก็ได้ค่ะ แต่แนะนำว่าให้ยื่นคะแนนดีกว่าค่ะ ส่วนที่มีคนถามว่าคะแนนไม่ถึงยื่นได้มั้ย ขอตอบว่ายื่นได้ค่ะ แต่ถ้าต้องการทุนโดยเฉพาะ 80% ขึ้นไปก็ต้องเขียน essay ให้ได้อย่างเทพ สัมภาษณ์อย่างเลิศ ซึ่งเราขอแนะนำว่าไปสอบดีกว่าค่ะ พยายามที่ไหนความสำเร็จอยู่ที่นั่น เหมือนเราก็ไปสอบโทอิคมาตั้ง 3 ครั้งแน่ะ 5555+

4. เรียงความภาษาอังกฤษ-เขียนตามหัวข้อที่ได้มาเลยค่ะ จะมีสองTopic ใหญ่ๆ เขียนเสร็จใครไม่มั่นใจก็เอาไปให้อาจารย์ช่วยเกลาภาษาให้ก็ได้ค่ะ แต่ขอย้ำนะคะว่าต้องเขียนเอง จริงอยู่ที่กรรมการอาจจะไม่รู้ว่าเราเขียนเองจริงหรือเปล่า แต่อย่าไปจ้างเลยค่ะ ส่วนตัวคิดว่าจะตรงนี้ยังทำเองไม่ได้ ต้องไปจ้างเอา ถึงเวลาเรียนจริงก็ไม่ไหวหรอกค่ะ อ้อ ในใบสมัครจะมีอีกหน้าหนึ่งให้เขียนสำหรับคนที่ต้องการขอทุน อีกหนึ่งหัวข้อนะ ใครไม่ขอก็ข้ามไป

5. หนังสือรับรองจากทางโรงเรียนภาษาอังกฤษฉบับจริง - เอกสารรับรองว่าเรียนจบแล้วไรทำนองนี้ ถ้ายังไม่จบก็ขอเอกสารยืนยันสถานภาพนักเรียนแทน

6. สำเนาหนังสือเดินทาง

7. Recommendation Letter แนบมากับใบสมัครแล้ว ให้อาจารย์กรอก ให้ดีเป็นครูอังกฤษ

8. รูปถ่าย 2 ใบ ขนาดนิ้วครึ่ง

9. หลักฐานการชำระเงินค่าสมัคร / สลิป

เอาล่ะหลังจากที่เราส่งเอกสารเหล่านี้ไปหมดเรียบร้อยแล้ว ทางมหาลัยก็จะออกตารางสัมภาษณ์มาให้ เราก็ไปตามคิวของเราค่ะ ให้ดีควรไปก่อนสัก 20 นาที

สำหรับการสัมภาษณ์ ควรเตรียมตัวยังไงบ้าง???

การสัมภาษณ์นั้นจะใช้เวลาประมาณ 20 - 30 นาทีค่ะ โดยจะมีอาจารย์สองท่านคอยสัมภาษณ์เรา อาจารย์ใจดีและเป็นกันเองค่ะ ไม่ต้องกังวลไป รีแลกซ์เข้าไว้ ตื่นเต้นได้แต่อย่าถึงขั้นประหม่า

มีคำถามอะไรบ้าง....?

เอิ่ม เท่าที่จำได้นะ

1. ไหนลองแนะนำตัวเองซิ - เราก็แนะนำไปค่ะ ชื่อแซ่อะไร มาจากที่ไหน เรียนรร.ไร อยากเข้าคณะอะไร ซึ่งนำมาสู่คำถามต่อไป....

2. ทำไมถึงอยากเรียนเข้าคณะนี้ล่ะ - เราบอกไปว่าอยากเรียน APS สาขา IR ค่ะ เลยตอบไปว่าอยากเป็นฑูตไรงี้ 5555+ อันนี้แล้วแต่คณะนะคะ บอกเหตุผลของเราไปเองเลยค่ะ

3. คิดว่าปัญหาระหว่างไทย-ญี่ปุ่นตอนนี้คืออะไร - อันนี้อาจารย์จะถามให้โยงกับคณะที่เราเลือกค่ะ เหมือนเราเลือก IR อาจารย์เลยถามปัญหาระหว่างประเทศ ดูว่าเราสนใจเหตุการณ์ความเป็นไปของโลกมั้ย? 555+ข้อนี้เราแถค่ะ ขอไม่เปิดเผยว่าตอบไรออกไป พูดไปพูดมาโยงเข้าการเมืองค่ะ (ช่วงนั้นมีม็อบ) เลยเข้าสู่คำถามข้อต่อไปต่อ =O=

4. ถ้าหากคุณเป็นคนเดียวที่สามารถแก้ไขปัญหาของไทยในตอนนี้ได้ คุณจะทำยังไง - โอ้วเบเบ้ ข้อนี้หินมาก มัน-หิน-มาก!!!! ไม่สามารถทำไรได้นอกจากแถต่อค่ะ (ไม่เปิดเผยเช่นเคย)

5. คุณคิดว่า ถ้าได้อยู่ APU แล้วจะทำกิจกรรมอะไรบ้าง - แน่นอนว่าต้องตอบเหมือนกันทุกคนคือ Thai Week!! 555+ แล้วก็แถมไปอีกหนึ่งกิจกรรม ข้อนี้แล้วแต่เช่นกัน อยากทำไรก็บอกเค้าไปเลยค่ะ บอกเหตุผลไปด้วยก็ดี

6. คุณจะทำอะไรในกิจกรรม Thai Week - ตอบเหมือนกันทุกคนเช่นกันคือ รำไทยค่ะ!! ถามว่ารำเป็นมั้ย ก็ไม่นะคะ ข้อนี้ตอบตามอัธยาศัย จะตอบว่าระบำไทเก๊กก็ได้ไม่ว่ากัน (ห๊ะ?)

7. ถ้าให้เลือกระหว่างเป็นผู้นำกับผู้ตามคุณจะเลือกอะไร?



คำถามก็ทำนองนี้แหละค่ะ มีอีก แต่ไกด์ให้แค่นี้พอ กร๊ากกก (อิงก!) โดยรวมแล้วก็ถามความเห็นของเรานั่นแหละค่ะ คำถามจะเป็นไปตามคณะที่เราเลือก ไม่เหมือนกันแล้วแต่คนค่ะ ถ้าเลือกคณะอะไรไปก็เตรียมข้อมูลไปหน่อยก็ดีค่ะ เหมือนบริหารธุรกิจอาจจะถามเกี่ยวกับเศรษฐกิจไรงี้ แต่ไม่ต้องซีเรียสมากค่ะ คำถามค่อนข้างโอเพ่น ให้เราแสดงความเห็นมากกว่า เค้าดูทัศนคติของเราด้วยรวมถึงการใช้ภาษาอังกฤษว่าสามารถพูดคุยตอบโต้เขาได้รึเปล่า ของเราก็ลื่นบ้างติดขัดบ้าง แต่ก็ให้ระลึกไว้ว่าจงเป็นตัวของตัวเองค่ะ แสดงความมุ่งมั่นในการจะเข้ามหาลัยนี้ให้มากที่สุด คิดอะไรไม่ออกก็จงยิ้มสู้!! เคนะทุกคน ^O^!

1 ความคิดเห็น: